เนวิน ชิดชอบ "ผมกำลังปั้นบุรีรัมย์เป็นฮับกีฬา
หลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่าการนั่งสัมภาษณ์ของ "ประชาชาติธุรกิจ" ครั้งนี้ไม่ใช่นั่งเก้าอี้ธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการนั่งบนอานจักรยาน แล้วปั่นไปรอบ ๆ "ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต" ที่สำคัญเป็นการปั่
...นจักรยานของสื่อมวลชนกลุ่มแรก ในการเยี่ยมชมแทร็กแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ระดับมาตรฐานโลก ที่สามารถรองรับการแข่งขันรถสูตร 1 หรือเอฟ 1 ที่ว่ากันว่ามีความเร็วสูงสุด
และที่หลายคนยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ก็คือ สนามแข่งรถยนต์ระดับโลกจะเกิดขึ้นในประเทศไทย เหลือเชื่อเข้าไปอีกนั่นก็คือ สนามแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูงในจังหวัดบุรีรัมย์ เมืองที่เคยเป็นแค่ทางผ่าน
แต่วันนี้ภาพของบุรีรัมย์เปลี่ยนไป เฉกเช่นเดียวกับภาพของอดีตนักการเมือง รัฐมนตรีหลายสมัย "เนวิน ชิดชอบ" ที่หันหลังให้กับมายาการเมือง แล้วเดินหน้าเข้าสู่โลกของธุรกิจกีฬา ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ด้วยเป้าประสงค์สำคัญคือ การสร้างเมืองบุรีรัมย์ให้เป็นจังหวัดกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนในจังหวัดบุรีรัมย์ให้แข็งแกร่ง
จากประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงการเมืองมากว่า 20 ปี สิ่งหนึ่งที่เขาได้เรียนรู้ คือสิ่งใดก็ตามที่ภาคเอกชนสามารถทำแล้วสำเร็จ ไม่นานนักภาครัฐจะเข้ามาดูแล และมีคนพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือสนับสนุนอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งนี่คือ วิถีแบบไทย ๆ หลังจากที่เนวิน เข้ามาจับธุรกิจด้านการกีฬา ด้วยการริเริ่มทำไอโมบาย สเตเดี้ยม สร้างทีมแข่งฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
ทีมฟุตบอลที่ทำให้เมืองแห่งนี้กลับมามีความครึกครื้น มีชีวิตชีวาก่อนที่เขาจะเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จกับลงทุนเนรมิตสนามแข่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่ได้การรับรองมาตรฐานระดับโลก โปรเจ็กต์ยักษ์ สนามแข่งรถบุรีรัมย์ หรือ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถมาตรฐาน FIA/FIM ที่เขาเทเม็ดเงินมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท และระยะเวลาในการก่อสร้างเพียง 1 ปีกับ 5 เดือน ว่ากันว่านี่คือสนามแข่งขันที่ใช้เวลาน้อยที่สุด
เมื่อถามถึงเม็ดเงินที่ใช้ไปกับการลงทุนโปรเจ็กต์นี้ "เนวิน" บอกว่าเงินที่เขาใส่ลงไป วันนี้มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมมูลค่าที่ดิน ซึ่งเขาบอกว่าเมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จ มูลค่าของที่ดินและการก่อสร้างต่าง ๆ ที่ได้ลงไปทั้งหมดจะมีเพิ่มขึ้น
วิธีคิดของเขา คือ สิ่งที่จะเป็นรายได้อะไรทั้งหมดจะถูกคิดในหลักการของค่าเสื่อมสภาพ และมูลค่าเพิ่ม จากเดิมเรามองว่า ธุรกิจจะต้องมีค่าเสื่อมเยอะ แต่ไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดกับมูลค่าการลงทุนในการสร้างสนามแข่งรถแห่งนี้ ซึ่งมองในหลักง่าย ๆ เช่นเดียวกับการทำสนามฟุตบอล ไอโมบาย สเตเดี้ยม ที่สามารถสร้างมูลค่าแบรนด์ให้กับตัวเองได้เพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ
ดังนั้น "เนวิน" จึงมีความเชื่อที่ว่า การลงทุนครั้งนี้ สิ่งที่ได้รับกลับคืนมา จะมีค่ามากกว่าค่าเสื่อม เพราะในเมื่อมูลค่าแบรนด์มีเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ มูลค่าของสิ่งที่จะตามมาก็จะต้องเป็นทวีคูณขึ้นไปด้วย นี่คือแนวคิดในการบริหารธุรกิจ "สไตล์เนวิน"
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับกับวันนี้ไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของคนเปลี่ยนไปจากสังคมครอบครัว ไปเป็นอีกสังคมหนึ่งที่ วันหยุดสุดสัปดาห์ทุกคนต่างจะต้องหากิจกรรมเพื่อพักผ่อน และเอ็นเตอร์เทรนตัวเอง และผมต้องการให้บุรีรัมย์ กลายเป็น Destination แห่งใหม่ของประเทศไทย
และเชื่อว่าจากนี้ไปประเทศไทยจะเหลือ Destination แค่ 10 แห่งในอีก 5 ปี และบุรีรัมย์จะเป็นหนึ่งในนั้น ภายใต้แนวคิด เมืองแห่งกีฬาและอีเวนต์ โดยจะเป็นเมืองที่มีอีเวนต์มากที่สุด และเมื่อสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 2-5 ต.ค. นี้ในการแข่งขัน รายการ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์ จีที เรซ" เราก็จะมีการจัดอีเวนต์ทุกสัปดาห์
นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า เป็นต้นไปเราจะมีการจัดแข่งขันแดร็ก-เรซซิ่ง ทุกอาทิตย์ ทำให้ได้อย่างน้อยที่สุดจะมีอีเวนต์สำหรับการแข่งรถ 30 อีเวนต์ในหนึ่งปี
มีการแข่งแดร็ก 52 อีเวนต์ และยังมีการแข่งขันฟุตบอลในบ้านอีก 30 แมตช์ ฉะนั้น เมื่อคุณเดินทางมาเมืองนี้เมื่อไหร่ จะไม่มีอาทิตย์ไหนเลยที่จะไม่มีกิจกรรม ทั้งฟุตบอลและรถยนต์ รวมถึงจักรยานยนต์ มันจะกลายเป็นเมืองแห่งอีเวนต์ทางกีฬา และกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาที่บุรีรัมย์
นอกจากฟุตบอล สนามแข่งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สนามยิงปืนแล้ว อนาคตเรายังเตรียมผุดโปรเจ็กต์ สปอร์ต แอดแวนเจอร์ ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนด้วย
สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดฯได้เปลี่ยนชื่อเป็น สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ภายใต้การเซ็นสัญญาเป็นเวลา 5 ปี โดยการบริหารงานนั้นเป็นของบุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด สนามแห่งนี้ได้รับมาตรฐาน FIA Grade 1 และ FIM Grade A ความยาวต่อรอบสนาม 4.554 กม.มีความโดดเด่นคือ แกรนด์สแตนด์แห่งแรกในโลกที่สามารถมองเห็นโค้งทั้ง 12 โค้งได้ ความเร็วสูงสุดในทางตรง 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถรองรับการแข่งขันรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลกได้ ส่วนความจุสนามทำได้ถึง 50,000 คน
และสามารถรองรับผู้เข้าชมปีละ 1 ล้านคนอย่างต่ำ สนามแห่งนี้จะประเดิมการแข่งขันรายการแรก คือ รายการ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์จีที" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค.นี้
การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับท็อปที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และในแต่ละปีจะทำการแข่งขันทั้งหมด 8 สนาม แบ่งออกเป็น 7 สนามแข่งขันที่ญี่ปุ่น และอีก 1 สนามแข่งขันที่ไทย โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รุ่นคือ GT500 ที่มีค่ายรถเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นนิสสัน, ฮอนด้า, เลกซัส และอีกหนึ่งรุ่น GT300 มีรถที่เข้าร่วม เช่น โตโยต้า, นิสสัน, ฮอนด้า, ซูบารุ, เมอร์เซเดส-เบนซ์, ปอร์เช่, ลัมโบร์กินี, เฟอร์รารี่, บีเอ็มดับเบิลยู, ออดี้ และแมคลาเรน
ผู้สนใจเข้าร่วมชมการแข่งขันสามารถซื้อบัตร 1 วัน ราคา 500 บาท, 2 วัน ราคา 750 บาท, บัตรแกรนด์สแตนด์ 1 วันราคา 1,500 บาท และ 2,000 บาท สำหรับบัตรแกรนด์สแตนด์ 2 วัน และราคา 5,000 บาท สำหรับ วี.ไอ.พี.
หลังจากนั้นแล้วจะมีอีเวนต์ใหญ่ ๆ ตั้งแต่ 11 ต.ค.ทีเอ็นจี แดร๊ก เรซซิ่ง, 18-19ต.ค. บ็อบบี้ ฮันเตอร์ ซูเปอร์วันเรซ, 26 ต.ค.Hi Cetane แดร็ก เรซซิ่ง, 1-2 พ.ย.ไทยแลนด์ซูเปอร์ ซีรีส์, 8-9 พ.ย.เอเชีย โรด เรซซิ่ง,22-23 พ.ย. เอเชียน เลอมังส์ ซีรีส์, 29-30พ.ย. ทัวริง คาร์ ซีรีส์ อิน เอเชีย และ 13-14ธ.ค. อาร์ทูเอ็ม ไทยแลนด์ ซูเปอร์ไบค์
เมื่อถามถึงโอกาสที่คนไทยจะสัมผัสสุดยอดการแข่งขันรถยนต์สูตร 1 ฟอร์มูล่า 1 "เนวิน" บอกว่าวันนี้คนไทยมีความพร้อมที่จะรองรับการแข่งขันขนาดนั้นได้อยู่แล้ว ขาดเพียงแค่ค่าลิขสิทธิ์ของฟอร์มูล่า 1 มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง มูลค่าหลายพันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่รัฐบาลของแต่ละประเทศจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เพราะสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและผู้สนับสนุนอื่น ๆ เข้ามา ซึ่งหากรัฐบาลพร้อมจะจัด "เนวิน" และ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก็พร้อมเกิน 100%
สุดท้าย ถามถึงจุดคุ้มทุน จากที่วันนี้มีรายได้จากสปอนเซอร์สนามที่เซ็นสัญญาจำนวน 270 ล้านบาท ส่วนการแข่งขัน "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซูเปอร์จีที" มีรายได้จากการขายบัตรแล้วกว่า 40 ล้านบาท และยังมีรายได้จากส่วนอื่น ๆ ประธานที่ปรึกษาโครงการบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ไปจะคืนทุน
http://www.prachachat.net/